'น็อกดาวน์' งบไม่บาน-ต้านแผ่นดินไหว !!

ทำงานทุกอย่างมีอุปสรรคปัญหาทั้งนั้น ตั้งสติ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ไขกันไป ทุกอย่างจะมีทางออกเอง ที่สำคัญอย่างยิ่งในการประกอบอาชีพนี้ คือเราต้องไม่หนีปัญหา และไม่ยอมแพ้ เพื่อคงไว้ซึ่งความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อผลงานของเราตลอดไป”

                       ต้องคิดเร็ว ทำเร็ว นี่คือพื้นฐานแนวความคิดของคนรุ่นใหม่ “โอ” โอฬาร ตั้งวงศ์กิจ หนุ่มเมืองชัยนาทวัย 33 ปี เจ้าของธุรกิจบ้านน็อกดาวน์ “ไทยโฮม” ที่เริ่มต้นสร้างผลงานด้วยวัยเพียง 28 ปี อาศัยความกล้า มุมมองที่ต่าง และความพร้อม มุ่งสร้างธุรกิจด้วยหนึ่งสมองสองมือ รับสร้างบ้านโครงสร้างเหล็กต้านแผ่นดินไหว เสร็จเร็ว เติมเต็มความฝันให้แ­ก่คนยุคใหม่ที่กำลังมองหาบ้าน ภายใต้บริบทงบ "จำกัด” ด้วยกลยุทธ์ “รับประกัน-จัดสรรเงินกู้” จนทำยอดขายทะลุ 300 หลังในปีที่ผ่านมา สร้างรายได้กว่า 160 ล้านบาท

“โครงสร้างเหล็กที่ใช้เป็นนวัตกรรมการก่อสร้างที่ได้รับความนิยมมากของชาวเยอรมัน มีคุณสมบัติต้านแผ่นดินไหวได้เป็นอย่างดี อีกทั้งปลอดจากมอด ปลวกเข้าทำลาย ที่สำคัญตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่มีพื้นที่น้อย ไม่มีเวลามาดูการก่อสร้าง และมีงบจำกัด ขณะที่ความทนทานนั้นอยู่ได้นานเท่ากับบ้านทั่วๆ ไป”
การออกสตาร์ทจากยอดออเดอร์ จำนวน 10 หลัง ในการสร้างบ้านให้แก่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง กับทีมงานช่างมืออาชีพกว่า 10 ชีวิต ที่ทำการติดตั้งภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพียง 1-2 วัน ด้วยคุณภาพของงานที่ได้มาตรฐาน ภายใต้คำปรึกษาของคณาจารย์คณะวิศวะ ม.ศิลปากร ทำให้ชื่อของ “บ้านไทยโฮม” เริ่มปรากฏสู่สายตาประชาชน ตามรายการทีวี ในฐานะผู้บุกเบิกบ้านน็อกดาวน์โครงสร้างเหล็กแห่งแรกของไทย จนเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในเวลาอันรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหนุ่มสาวในวัยทำงานที่กำลังมองหาบ้านพักอาศัย ซึ่งบ้านน็อกดาวน์ประเภทนี้สามารถตอบโจทย์ได้ในทุกข้อ ทั้งได้มาตรฐาน รวดเร็ว ราคาไม่แพง ใช้พื้นที่ไม่มาก และลูกค้าไม่มีเวลาที่จะมาดูแลการก่อสร้าง
                       โดยเลือกสรรผ่านงานดีไซน์ใน 2 รูปแบบกว่า 100 รายการ เริ่มจาก บ้านสไตล์โมบายโฮม ที่มีกว่า 40 แบบ ในราคาเริ่มต้น 145,000 บาท ไปจนถึงล้านต้นๆ ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างสำเร็จเรียบร้อย สามารถขนย้ายไปตั้งบนที่ดินของลูกค้าได้เลย ใช้เวลาติดตั้งเพียง 2 วัน และบ้านสไตล์สมาร์ทโฮม ที่มีให้เลือกกว่า 60 แบบ สนนราคาเริ่มต้น 350,000 บาทขึ้นไป จนถึงหลัก 2 ล้านบาทเศษ บ้านลักษณะนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าสไตล์โมบายโฮม ซึ่งจะเป็นการนำโครงสร้างไปประกอบให้แก่ลูกค้าที่หน้างาน โดยจะใช้เวลาสร้างประมาณ 4-5 วัน
ความที่ราคาของบ้านใครๆ ก็จับต้องได้ บวกกับมาตรฐานความแข็งแรงทนทานเทียบเท่าบ้านทั่วไไป สินค้าจึงสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งกลุ่มนักลงทุนธุรกิจรีสอร์ท ที่ส่วนใหญ่สั่งผลิตขั้นต่ำ 10 หลังขึ้นไปต่อครั้ง รวมถึงผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยเองที่ไม่เฉพาะแค่คนวัยทำงาน ทั้งผู้สูงอายุที่ต้องการมีบ้านหลังที่ 2 ไว้พักผ่อนในบั้นปลายชีวิต ทำให้ “บ้านไทยโฮม” กลายเป็นธุรกิจที่ซื้อง่ายขายคล่อง ที่ปัจจุบันมียอดขายโดยเฉลี่ยประมาณ 30-40 หลังต่อเดือน กับรูปแบบบ้านโมบายโฮม และอีกกว่า 50 หลัง ในรูปแบบบ้านสมาร์ทโฮม ทำให้ปี 2557 ที่ผ่านมา ทั้งสองแบบสามารถสร้างรายได้ถึงกว่า 160 ล้านบาท


ที่มา komchadluek.net
Share on Google Plus

About d

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น